พื้นที่คุ้มครองทางทะเล (MPA) มีความสำคัญต่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลและสนับสนุนสุขภาพของระบบนิเวศ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเร่งตัวขึ้น ผู้จัดการ MPA จึงต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปะการังฟอกขาวหรือระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ซึ่งต้องใช้แนวทางที่ปรับตัวได้และมองการณ์ไกล เพื่อช่วยรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ Reef Resilience Network จึงได้พัฒนาแนวทางใหม่เกี่ยวกับการวางแผนการจัดการอย่างชาญฉลาดด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งบูรณาการการพิจารณาสภาพภูมิอากาศเข้ากับทุกแง่มุมของการวางแผนและการตัดสินใจของ MPA

ระหว่างการสัมมนาทางเว็บนี้ จอห์น มอร์ริสันผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและมาตรการการอนุรักษ์ของ WWF-US แนะนำกรอบการวางแผน Climate-Smart โดยเน้นที่เครื่องมือต่างๆ สำหรับการประเมินความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ จัดการความไม่แน่นอน และบูรณาการภัยคุกคามจากสภาพภูมิอากาศและแบบเดิมเข้าในกระบวนการวางแผนที่ครอบคลุม ดร.แอนนิค ครอสหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ด้านความยืดหยุ่นสำหรับมหาสมุทรทั่วโลกของ TNC ได้สร้างรากฐานนั้นขึ้นมาด้วยการสรุปว่ากรอบการทำงาน Climate-Smart ของ Reef Resilience Network นำแนวคิดเหล่านี้ไปใช้ในทางปฏิบัติอย่างไร เธอเน้นย้ำถึงการผนวกการพิจารณาด้านสภาพภูมิอากาศเข้าไว้ด้วยกันตลอดวงจรการวางแผนการจัดการโดยอิงจากงานนำร่องในบาฮามาส อลิซา บาสเตียนParks Planner for the Bahamas National Trust ปิดท้ายด้วยข้อมูลเชิงลึกจากการนำกรอบงานไปปฏิบัติจริง เธอแบ่งปันความเป็นจริงของการปรับเปลี่ยน MPA ให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในบาฮามาส รวมถึงความท้าทายที่สำคัญ บทเรียนที่ได้รับ และคำแนะนำสำหรับผู้ที่เริ่มต้นงานนี้ ขอบคุณผู้เข้าร่วมงานสำหรับคำถามและทรัพยากรอันเป็นประโยชน์ที่แบ่งปันให้

แหล่งข้อมูล

เว็บสัมมนานี้จัดทำโดย Reef Resilience Network และ Blue Nature Alliance ร่วมกับ International Coral Reef Initiative ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเว็บสัมมนา #ForCoral หากคุณไม่สามารถเข้าถึง YouTube ได้ คุณสามารถทำได้ ดาวน์โหลดสำเนา ของการบันทึก

 

Translate »